อ้อยควั่น เด็กหญิงซึ่งเป็นลูกของ เจ้านางน้อยบุญญวง ลูกสาวของเจ้าเมืองชนกลุ่มน้อย ที่หลบหนีการรุกรานแล้วถูกฆ่าเสียชีวิต ก่อนตายฝากลูกสาวไว้กับคนสนิทชื่อ ส่าง โดยการปลอมตัวเป็นสามัญชน ปะปนมาอยู่ในค่ายของผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย จากเจ้านางน้อยต้องกลายมาเป็นนางสาวบุญญวง ที่ลำบากยากแค้น รอคอยการคัดเลือกตัวไปประเทศที่สาม วันหนึ่ง ณัฐวุฒิ มหาเศรษฐีหนุ่มอายุสี่สิบกว่า มีภรรยาชื่อ สินีนาฏ แต่ทั้งคู่ไม่มีลูกทั้งที่อยากมีลูกมาก ณัฐวุฒิได้รับ นัทธร ซึ่งเป็นหลานของภรรยามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่แบเบาะและรักเหมือนลูก ณัฐวุฒิได้มาแวะเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้ เพื่อบริจาคเงินและสิ่งของให้กับค่ายแห่งนี้ ณัฐวุฒิเป็นคนติดดินและชอบการเรียนรู้ รักเด็ก เขาจึงขอพักที่ศูนย์แห่งนี้ โดยมีส่างซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้อพยพเป็นผู้ดูแลที่พักและอาหาร ส่างได้พาเจ้านางบุญญวงมาด้วย เพราะเจ้านางรับอาสามาทำความสะอาดที่พักให้ ณัฐวุฒิถึงกับตะลึงในความสวยงามใสซื่อของเจ้านาง ณัฐวุฒิหลงรักเข้าทันทีที่ได้พบ โดยส่างสังเกตเห็นด้วยความต้องการให้เจ้านางสุขสบาย จึงเปิดโอกาสให้สนิทสนมกัน โดยส่างบอกประวัติของบุญญวงว่า คือเจ้านางน้อยของชนเผ่าที่อยู่ระหว่างตะเข็บชายแดน
ณัฐวุฒิหาโอกาสมาพบเจ้านาง และหาวิธีทำให้เจ้านางบุญญวงได้ออกมานอกค่าย และในที่สุดเจ้านางบุญญวงก็ตกเป็นของณัฐวุฒิ สินีนาฏสงสัยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของณัฐวุฒิ จึงสืบจนได้ความจริง สินีนาฏส่งคนตามทำร้ายเธอเพื่อให้เลิกกับณัฐวุฒิ เจ้านางเสียใจมากพยายามขอเลิกกับณัฐวุฒิแต่เขาไม่ยอม ในที่สุดเจ้านางก็ตั้งท้องและได้รับการติดต่อจากสินีนาฏว่าถ้าไม่อยากตายให้ยกลูกให้สินีนาฏ ถ้าไม่ยอมทำตามจะฆ่าลูกของเจ้านางเสีย ส่วนสินีนาฏก็ทำเป็นว่าท้องให้สอดคล้องกับการรับลูกของเจ้านางมาเป็นลูกของตัวเองกับณัฐวุฒิโดยถูกต้องตามกฎหมาย เจ้านางเสียใจและได้ปรึกษากับส่าง โดยส่างให้ยอมทำตามเพื่อความสุขของหนูน้อยที่กำลังจะเกิดมา ในที่สุดเจ้านางก็คลอดลูกสาวให้ชื่อว่า ส่วยหย่ง แปลว่ากระต่ายทอง และตัดสินใจไปอยู่ประเทศที่สามคือ อเมริกา ส่วนลูกน้อยมอบให้ส่าง และส่างจะเป็นคนส่งมอบให้สินีนาฏ ณัฐวุฒิดีใจมากที่จะได้ลูก นัทธรก็ดีใจที่จะได้น้อง สินีนาฏทำทีไปต่างจังหวัด และจะอ้างว่าเธอคลอดลูกที่ต่างจังหวัด แต่ปรากฏว่าสินีนาฏรถคว่ำเสียชีวิต และความจริงปรากฏว่าเธอไม่ได้ท้อง ณัฐวุฒิเสียใจมากและไม่เข้าใจว่าทำไมสินีนาฏต้องโกหกเขาเรื่องลูก ส่างรอคอยการมาของสินีนาฏและผิดหวัง เข้าใจว่าสินีนาฏหลอก ภายหลังรู้ว่าสินีนาฏเสียชีวิต จึงวางแผนจะเอาส่วยหย่งไปส่งให้ณัฐวุฒิและบอกความจริง ปรากฏว่าเกิดจลาจลในค่ายพัก ส่างเสียชีวิตก่อนที่จะได้บอกความจริงกับณัฐวุฒิ แม่หนูส่วยหย่งที่มีเหรียญตราห้อยคอเป็นโลหะธรรมดา สลักว่าบุญญวงด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านสลักว่าส่วยหย่ง หนูน้อยส่วยหย่งถูกหญิงในศูนย์ดูแลกันตามีตามเกิดต่างคนต่างมีลูก นางมะขิ่น ได้สิทธิ์ขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานต่างด้าว ได้ขายหนูส่วยหย่งให้กับ นางสมใจ คนไทยคนหนึ่งซึ่งซื้อเอาไปขอทาน ณัฐวุฒิรีบมาที่ค่ายผู้อพยพพบว่าเจ้านางบุญญวงไปอยู่อเมริกาแล้ว มีลูกสาวแต่ไม่ทราบว่าหายไปไหนแล้ว ณัฐวุฒิเสียใจแทบเป็นบ้า พยายามส่งคนสืบหาลูกสาวแต่ไม่ได้วี่แววทำให้ณัฐวุฒิถึงกับล้มป่วย หนูน้อยส่วยหย่งระหกระเหินไปกับนางสมใจ มาถึงกรุงเทพฯ มีชื่อใหม่ว่า นังอ้อยควั่น นางสมใจเอาไปร่อนเร่ขอทาน จนเด็กน้อยอายุได้ 6-7 ขวบ ถูกทารุณทุบตีโดยสมใจตลอดเวลา พอโตขึ้นสมใจบังคับให้ไปขอทานเอง อ้อยควั่นมีพรสวรรค์ในการเต้นและร้องเพลง เธอจึงสามารถเต้นและร้องเพลงสะกดให้คนทั้งหลายให้เงินเธอมากกว่าเด็กอื่นๆ อ้อยควั่นจึงตกที่นั่งลำบาก เพราะถูกเกลียดและกลั่นแกล้งโดยเด็กอื่นที่ขอทานไม่ค่อยได้ กิตติศัพท์ความสามารถของอ้อยควั่นลือไปทั่ว ทำให้เป็นที่ต้องการของพวกบังคับเด็กไปขอทาน ต่อมาอ้อยควั่นถูกแก๊งค์ลักเด็กใหญ่คือ นางสมร ลักตัวไป หวังจะเอาไปบังคับให้ขอทานเลี้ยงตัวเองอีกจังหวัดหนึ่ง ที่นั่นอ้อยควั่นพบเด็กที่ถูกบังคับและมาขังไว้จำนวนมาก อ้อยควั่นสงสารพวกเด็กๆ จึงวางแผนพาพวกเด็กๆ ก่อจลาจลและหนีออกมาในคืนหนึ่ง พวกเด็กๆ หนีออกไปได้หมด แต่อ้อยควั่นกลับถูกจับได้และถูกซ้อมจนสะบักสะบอมจนป่วย หลังจากนั้นถูกพาตัวใส่รถจะส่งไปขายที่ชายแดน ระหว่างเดินทางช่วงพักเติมน้ำมันอ้อยควั่นทั้งที่ป่วยปางตายได้แอบหนีลงมาจากรถ สมรเห็นเข้าไล่ตามจับเกิดโกลาหลกันขึ้นอีก อ้อยควั่นหลบไปที่ร้านอาหารข้างปั๊มแล้วแอบไปขึ้นท้ายรถปิคอัพคันหนึ่ง ซึ่งกำลังจะออกรถหลบหนีไป รถคันนั้นมาถึงที่หมายจะขนของลงกลับเจออ้อยควั่นนอนหลับอยู่ท้ายรถ แทนที่จะสงสารกลับทุบตี อ้อยควั่นตกใจตื่นขวัญหนีดีฝ่อไปจากรถ วิ่งเตลิดไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตนอนหลับตามข้างถนนพงหญ้า ยามหลับก็ละเมอเรียกหา แม่จ๋าอยู่ไหน เสมอ อ้อยควั่นพบหมาจรจัด ที่ตอนแรกกำลังจะแย่งอาหารกัน ผลที่สุดตัดสินใจแบ่งอาหารให้พร้อมกับตั้งชื่อว่า มู่ลี่ มู่ลี่กับอ้อยควั่นเป็นเพื่อนไปไหนไปด้วยกัน อ้อยควั่นร้องเพลงเต้นระบำและร้องเพลงหากินเลี้ยงชีวิตไปวันๆ กับมู่ลี่ ในใจอยากมีใครสักคนที่รักและดูแลเธอ อ้อยควั่นตั้งใจจะตามหาแม่ให้พบสักวันหนึ่งให้ได้ วันหนึ่งอ้อยควั่นเดินสะเปสะปะเข้ามาในตลาดกับมู่ลี่ หิวแทบเป็นลมอยากขโมยของกินเอื้อมมือไปแล้วก็หดมือ เพราะรู้ว่าบาป พบเอา ป้าเมตตา กับผู้ช่วยเดินมาจ่ายตลาดด้วยรถเข็น มีข้าวของในรถเข็นมากมายจนน่าแปลกใจ ในตระกร้ามีส้มลูกใหญ่น่ากินเต็มไปหมด ส้มหล่นลงมาอ้อยจะหยิบกินแล้วหดมือ ทันใดที่ชายคนหนึ่งวิ่งมากระชากกระเป๋าคุณป้า อ้อยควั่นอยากทำความดี จึงบอกให้มู่ลี่ช่วย มู่ลี่วิ่งไปแย่งกระเป๋าคืนมาได้ ป้าเมตตาดีใจและขอบใจอ้อยควั่นมากให้เงินอ้อยควั่นเป็นรางวัล อ้อยควั่นอยากมีใครสักคนที่เมตตาเธอ อ้อยควั่นจึงขอผลไม้และขนมปังให้มู่ลี่ เธอแอบตามไปดูป้าเมตตาเห็นป้าขึ้นรถตู้คันหนึ่งออกไป อ้อยควั่นมองตามหน้าละห้อย อ้อยควั่นกับมู่ลี่มาดักรอป้าเมตตาทุกวัน ช่วยถือของช่วยส่งขึ้นรถ ป้าเมตตาแปลกใจถามชื่อที่อยู่พ่อแม่และโรงเรียน อ้อยบอกว่าเธอตัวคนเดียวมีมู่ลี่เท่านั้นที่เป็นเพื่อน ป้าเมตตาตกใจมาก บอกว่าจะพาเธอไปพบผู้ดูแลบ้านเด็กกำพร้าที่ป้าทำงานอยู่ อ้อยควั่นอาจจะมีที่อยู่แต่มู่ลี่ไปไม่ได้ อ้อยควั่นจึงหน้าจ๋อย ในที่สุดอ้อยควั่นตัดสินใจสะกดรอยตามคุณป้า โดยแอบเข้าไปอยู่ในรถขนอาหารของป้าเมตตา โดยเอามู่ลี่เข้าไปด้วย ในที่สุดก็มาถึงบ้านเด็กกำพร้าป้าเมตตาตกใจและรับปากจะดูแลมู่ลี่ให้ในฐานะที่มู่ลี่ช่วยแย่งกระเป๋าเงินให้ และจะไม่บอกให้ คุณแม่ปราณี ป้าเมตตาพาไปพบคุณแม่ปราณี ในที่สุดอ้อยควั่นก็ได้รับุญาตให้อยู่ที่บ้านแห่งนี้ และอ้อยควั่นมีชื่อใหม่ว่า กชกร อ้อยควั่นกับป้าเมตตาแอบเลี้ยงมู่ลี่เอาไว้ และคอยพาหลบซ่อนผู้คนแบบตลกๆ รวมทั้งคุณแม่ปราณีด้วย อ้อยควั่นได้เรียนหนังสือ ได้หัดทำงานเล็กๆ น้อยๆ อ้อยควั่นต้องต่อสู้และถูกกลั่นแกล้งจากเด็กรุ่นเก่าและโตกว่า และต้องคอยป้องกันเด็กเล็กๆ ที่ถูกรังแก อ้อยควั่นอยู่ที่สถานเด็กกำพร้าจนอายุ 12 ปี หน้าตาสะสวย เริ่มเป็นสาว เรียนจบชั้น ป.6 ส่วนณัฐวุฒิพลิกแผ่นดินหาลูกสาวมาหกปีก็ยังไม่มีวี่แวว ให้ลูกชายบุญธรรมคือ นัทธร ช่วยสืบเสาะก็ไม่พบจนหมดกำลังใจให้นัทธรดูแลธุรกิจแทน นัทธรไปบริจาคเงินที่สถานเด็กกำพร้าหลายแห่ง และขอเข้าไปอุปการะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม หวังจะสืบหาลูกสาวของณัฐวุฒิ นัทธรประกาศรับอุปการะเด็กเป็นลูกโดยให้เขียนเรียงความประกวดเรื่อง แม่จ๋าอยู่ไหน นัทธรเอาเรียงความทั้งหมดมาอ่านและรู้สึกประทับใจเรียงความของอ้อยควั่น เขาชอบมากตรงที่เธอแอบเลี้ยงสุนัขเพื่อนตายของเธอไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาถึง 6 ปีแล้ว อ้อยควั่นดีใจมากที่ได้รับรางวัล ด้วยการเป็นลูกอุปถัมภ์ของคุณพ่อคนหนึ่ง โดยที่เธอไม่เคยรู้เลยว่าคุณพ่อของเธอคือใคร เธอได้รับโน้ตสั้นๆ จากคุณพ่อ โดยเลขาชายชื่อ จามร ของคุณพ่อ แจ้งความจำนงว่าคุณพ่อต้องการนำมู่ลี่ไปเลี้ยงดูอย่างดีที่บ้านของคุณพ่อ ส่วนอ้อยควั่นคุณพ่อจะส่งไปไว้ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง คุณแม่ปราณีดีใจด้วยกับอ้อยควั่น แต่ต่อว่าที่แอบเลี้ยงสุนัขไว้ไม่บอก อ้อยควั่นสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมคุณแม่บ้างในช่วงปิดเทอม ที่โรงเรียนใหม่อ้อยควั่นได้พบผู้อำนวยการโรงเรียนหนุ่มมากชื่อ คุณนัทธร มีเพื่อนใหม่ชื่อ ภัคภิรมย์ เป็นหลานของผู้อำนวยการ และเด็กหญิง ศลิษา มาเข้าใหม่เช่นกัน ผู้อำนวยการเรียกตัวอ้อยควั่นไปพบเพื่อสอบถามถึงผลการเรียน นัทธรอบรมให้อ้อยควั่นเข้ากับทุกคนที่นี่ได้ และทำตัวให้เป็นประโยชน์กับผู้อื่น นัทธรดูเฉยเมยเงียบขรึมเจ้าระเบียบจนอ้อยควั่นกลัว อ้อยควั่นได้รับคำสั่งจากคุณพ่อผ่านเลขาว่า ให้เธอบอกทุกคนว่าพ่อแม่เสียชีวิตและเธอมีญาติอุปการะอยู่ อ้อยกับภัคภิรมย์ไม่ถูกกัน ภัคจะดูหยิ่งพูดจาดูถูกผู้อื่น และอยากรู้ว่าทุกคนเป็นลูกท่านหลานเธอที่ไหน พูดแต่สิ่งที่หรูหราและอยากรู้มากว่าอ้อยมาจากไหนเป็นใคร เพราะไม่เคยเห็นญาติมาเยี่ยม ศลิษาต้องคอยไกล่เกลี่ย อ้อยควั่นมักจะเขียนจดหมายผ่านเลขาคุณพ่อ ไประบายให้ฟังอยู่เสมอ แต่แล้วทุกคนก็ต้องตะลึงเพราะในวันหยุดจะมีรถคันงามและมู่ลี่น้องหมาที่ถูกแปลงโฉมจนจำแทบไม่ได้มาหาอ้อยควั่นพร้อมกับของขวัญมากมาย เช่น เสื้อผ้า ขนมนมเนย บางครั้งก็ให้รับไปเที่ยวข้างนอก มีเงินโอนเข้าบัญชีโดยให้อ้อยควั่นกดเอทีเอ็มนำเงินนั่นออกมาใช้จ่าย อ้อยควั่นได้เขียนบอกคุณพ่อว่ามากเกินไปไม่จำเป็น แต่คุณพ่อก็ยังส่งมานั่นเอง ทำให้อ้อยควั่นอยากรู้อยากพบคุณพ่อมากขึ้น แต่มิวายที่อ้อยควั่นจะขอร้องอย่างไรคุณพ่อก็ไม่เคยได้มาพบอ้อยควั่น มีแต่เลขาที่มาแทน คนที่อ้อยควั่นมักได้พบกลับเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนที่มาอาทิตย์ละครั้ง ทุกครั้งจะเรียกอ้อยควั่นไปพบและอบรมเรื่องเดิมๆ สำรวจอ้อยควั่นอย่างเข้มงวด เวลาผ่านไปอีกหกปี อ้อยควั่นเรียนจบ ม.6 และได้รับข่าวร้ายว่ามู่ลี่ตายแล้วด้วยโรคชราแต่ก็ตายอย่างสงบ อ้อยเสียใจมาก แต่ก็ได้รับโน้ตจากคุณพ่อว่าชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป ให้ตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ในที่สุดอ้อยควั่นก็สอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกับภัคและศลิษา มีการเลี้ยงฉลองสอบติดของทั้งสามคนโดยมีอานัทธรของภัคเป็นเจ้าภาพ ที่ห้องอาหารหรู อานัทธรดูใจดีขึ้นและบอกว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนของอ้อยควั่นแล้ว เขายิ้มแย้มเป็นกันเอง ทำให้อ้อยควั่นหายกลัว ศลิษาแอบกระซิบอ้อยควั่นว่าเธอแอบกรี๊ดคุณอามานานแล้ว อ้อยควั่นบอกว่าเหลวไหล แต่ศลิษาบอกว่าตอนนี้พวกเราเป็นสาวแล้วเริ่มมองหนุ่มๆ ได้บ้างแล้ว นอกจากอานัทธรจะเลี้ยงแล้วพี่ชายของศลิษาคือ พี่ศรุต ยังขอเลี้ยงพวกสาวๆ อีก คราวนี้ภัคกระซิบอ้อยควั่นว่าเธอปิ๊งพี่ศรุต ห้ามอ้อยควั่นมาแตะ อ้อยควั่นรับปาก มีโน้ตจากพ่อว่าอ้อยเป็นสาวแล้วให้ดูแลตัวเองดีๆ จะคบใครต้องระวัง อยู่ในวัยเรียนไม่ควรข้องแวะกับผู้ชาย อ้อยตอบไปว่าอ้อยจะไม่มีแฟน คุณพ่อตอบมาว่าดีมาก ขอให้จริงอย่างที่พูด อ้อยถามว่าคุณพ่อห่วงอ้อยหรือ คุณพ่อตอบว่าห่วงมาก เจ้านางบุญญวงเดินทางกลับมาเมืองไทยสืบหาณัฐวุฒิ
|